ชื่อผู้ใช้งาน คือข้อมูลที่ใช้เพื่อเข้าสู่ระบบ สามารถใช้ได้ทั้งภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ตัวอย่าง เลขบัตรประชาชน 4 หลักท้าย (X-XXXX-XXXX1-23-4)
PIN 4 หลัก จะถูกใช้เป็นรหัสยืนยันในการแก้ไขแบบสอบถามหรือ การลืมรหัสผ่านเข้าสู่ระบบ
 
 
คำถามปลอดภัย จะถูกใช้เป็นคำถามยืนยันในการแก้ไขรหัสที่ใช้ในการเข้าสู่ระบบ
คำตอบปลอดภัย จะถูกใช้เป็นคำตอบของ"คำถามปลอดภัย" เพื่อยืนยันในการแก้ไขรหัสที่ใช้ในการเข้าสู่ระบบ
 
 
 

เอกสารชี้แจงผู้เข้าร่วมการวิจัย/อาสาสมัคร

(Participant Information Sheet)

ในเอกสารนี้อาจมีข้อความที่ท่านอ่านแล้วยังไม่เข้าใจ โปรดสอบถามหัวหน้าโครงการวิจัยหรือผู้แทนให้ช่วยอธิบายจนกว่าจะเข้าใจดี ท่านอาจจะขอเอกสารนี้กลับไปอ่านที่บ้านเพื่อปรึกษา หารือกับญาติพี่น้อง เพื่อนสนิท แพทย์ประจำตัวของท่าน หรือแพทย์ท่านอื่น เพื่อช่วยในการตัดสินใจเข้าร่วมการวิจัย

ชื่อโครงการวิจัย: โครงการพัฒนาระบบดูแลและสร้างเสริมสุขภาพชุมชนผ่านระบบฐานข้อมูลสุขภาพ (ศิริราชสานสองวัย:บางกอกน้อยโมเดล)

ชื่อหัวหน้าโครงการวิจัย รศ.นพ.นริศ กิจณรงค์

สถานที่วิจัย เขตบางกอกน้อย

สถานที่ทำงานและหมายเลขโทรศัพท์ของหัวหน้าโครงการวิจัยที่ติดต่อได้ทั้งในและนอกเวลาราชการ
รองศาสตราจารย์นายแพทย์นริศ กิจณรงค์ รองคณบดีฝ่ายสื่อสารองค์กรและกิจกรรมเพื่อสังคม งานกิจกรรมเพื่อสังคม ตึกชัยนาทนเรนทรานุสรณ์ ชั้น 1 คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โทร.02-419- 9065 และ 090-990- 6184

ผู้สนับสนุนทุนวิจัย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส).
(ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับแหล่งทุน)
ระยะเวลาในการวิจัย 1 ตุลาคม 2559 – 30 กันยายน 2561

ที่มาของโครงการวิจัย

จากโครงสร้างประชากรที่กำลังมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง โดยการเปลี่ยนจากภาวะอัตราการเกิดและอัตราการตายสูง มาสู่ภาวะอัตราการเกิดและอัตราการตายต่ำ ทำให้เกิดแนวโน้มของการเริ่มต้นการเข้าสู่ “สังคมผู้สูงอายุ” ซึ่งเป็นประเด็นท้าทายต่อการเตรียมความพร้อมในการดูแล คุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในสังคมไทย ทั้งนี้การดูแลสุขภาพต้องครอบคลุมทั้งร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และจิตวิญญาณ และแต่ละบุคคลนั้นจะมีพื้นฐานสุขภาพที่ดีได้ ต้องรวมไปถึง การเลี้ยงดูอย่างถูกต้องเหมาะสม การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีที่เป็นพื้นฐานทางจิตใจ การอบรมสั่งสอนของพ่อแม่ครูอาจารย์ พฤติกรรมในชีวิตประจำวัน รวมทั้งการป้องกันโรค ซึ่งการป้องกันโรคนับเป็นปัจจัยที่สำคัญของการพัฒนาระบบดูแลสุขภาพที่ดี ที่มีต้องมีความครอบคลุมและยั่งยืน

คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลได้เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาดังกล่าวจึงมีโครงการ“ศิริราชสานสองวัย:บางกอกน้อยโมเ ดล” ที่ส่งเสริมให้สมาชิกในครอบครัวทั้งวัยเด็ก วัยทำงาน ซึ่งเป็นรุ่นลูก รุ่นหลาน สร้างความสัมพันธ์กับผู้สูงอายุในครอบครัว ปลูกฝังให้ทุกช่วงวัย ใส่ใจและดูแลผู้สูงอายุทั้งทางด้านสุขภาพร่างกายและจิตใจ เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข โดยใช้ชุมชนบางกอกน้อยและบุคคลากรศิริราชเป็นต้นแบบในการพัฒนา เนื่องจากปัจจัยกำหนดสุขภาพของผู้สูงอายุมีหลายองค์ประกอบ การมุ่งเน้นการดูแลสุขภาพด้วยการรักษาพยาบาลเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถช่วยให้ผู้สูงอายุมีสุขภาวะที่ดีอย่างยั่งยืนได้ การดูแลสุขภาพผู้สูงอายุต้องเริ่มตั้งแต่บุคคลอยู่ในครรภ์ และเติบโตเข้าสู่วัยเด็ก วัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ และวัยก่อนเข้าวัยผู้สูงอายุ และต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่นๆที่เกี่ยวข้องได้แก่ ความปลอดภัยในชีวิต สิ่งแวดล้อม เศรษฐศาสตร์ และสังคมด้วย ตลอดจนการ การสร้างชุมชนต้นแบบด้านสุขภาพที่เข้มแข็งที่ไม่หวังพึ่งการรักษาเมื่อเจ็บป่วยเพียงอย่างเดียว อย่างไรก็ตาม การพัฒนาระบบการดูแลสุขภาพ ต้องเริ่มต้นจากการมีฐานข้อมูลสุขภาพที่ถูกต้อง เชื่อถือได้ และเป็นปัจจุบัน อันจะนำไปสู่การวิเคราะห์ปัญหาสุขภาพได้ตรงจุด ทำให้เกิดการวางแผนกิจกรรมโครงการ การดำเนินงาน และกระบวนการเชิงรุกได้อย่างมีประสิทธิภาพ การพัฒนาระบบฐานข้อมูลสุขภาพซึ่งถือเป็นระยะที่ 1 ของโครงการอันจะนำไปสู่ระยะต่อไปในการพัฒนาระบบการดูแลรักษาสุขภาพของชุมชนในเขตเมืองให้ตรงกับความต้องการข องผู้สูงอายุของประชาชนและชุมชน

จากการศึกษาฐานข้อมูลสุขภาพของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพประชาชน พบว่า ระบบฐานข้อมูลของหน่วยงานต่างๆขาดการบูรณาการ ขาดการส่งต่อข้อมูลเชื่อมต่อกัน ทำให้ปัจจุบัน ยังไม่มีฐานข้อมูลสุขภาพที่ครอบ คลุมทุกมิติที่ส่งผลต่อการดูแลสุขภาพของคน ในชุมชนเขตเมือง คณะฯจึงได้มีโครงการพัฒนาระบบการเก็บข้อมูลสุขภาพผ่านอุปกรณ์ เคลื่อนที่ ได้แก่ แอปพลิเคชันสำหรับมือถือและแท็บเล็ต รวมทั้งเว็บไซต์บนอินเทอเน็ต เพื่อให้การเก็บข้อมูลสุขภาพสามารถเข้าถึงกลุ่มประชากรได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม การนำข้อมูลสุขภาพดังกล่าวไปใช้จำเป็น ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ให้ข้อมูล เพื่อให้สามารถนำไปใช้ในเชิงการวิจัยสุขภาพ

โดยการดำเนินการในระยะที่หนึ่ง คือ การพัฒนาระบบฐานข้อมูลสุขภาพเพื่อพัฒนาระบบดูแลและสร้างเสริมสุขภาพและ การสร้างเครือข่ายและกระบวนการเรียนรู้จากการจัดการข้อมูลสุขภาพเพื่อการจัดการระบบดูแลสุขภาพ และระยะที่สองคือ การวิจัยเชิงปฏิบัติการ เพื่อการพัฒนาระบบดูแลสุขภาพ นำข้อมูลที่ได้มาจัดทำฐานข้อมูลเพื่อสร้างระบบการบริหารจัดการข้อมูลอย่างมีส่วนร่วม เชื่อถือได้และเป็นปัจจุบัน นำข้อมูลมาวิเคราะห์ด้วยสมรรถนะหลักของคณะฯและองค์กรภาครัฐในพื้นที่ เพื่อพัฒนาการดำเนินงานและรูปแบบโครงการ กิจกรรมเพื่อแก้ไขหรือลดผลกระทบของปัญหาสุขภาพในอนาคต วางรากฐานให้ประชาชนมีความรู้ในกระบวนการป้องกันการเกิดโรคและการสร้างเสริมสุขภาพด้วยตนเองเพื่อรองรับการเปลี่ ยนแปลงการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ

วัตถุประสงค์ของโครงการวิจัย

1. เพื่อจัดทำฐานข้อมูลสุขภาพของชุมชนในเขตบางกอกน้อยโดยจัดเก็บข้อมูลด้านสุขภาพรวมทั้งปัจจัยอื่นๆที่ส่งผลต่อการดูแลสุ ขภาพ

2. เพื่อศึกษาปัญหาสุขภาพและปัจจัยที่มีผลต่อการดูแลสุขภาพของชุมชนในเขตเมืองโดยใช้ชุมชนบางกอกน้อยเป็นกรณีศึกษา

3. เพื่อทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องมือในการจัดเก็บข้อมูลสุขภาพ ได้แก่ แอปพลิเคชันบางกอกน้อยโมเดล และแอปพลิเคชันที่ใช้บนเว็บไซต์

(ท่านได้รับเชิญให้เข้าร่วมการวิจัยนี้เนื่องจาก ท่านเป็นกลุ่มเป้าหมาย อายุ 18 ปีขึ้นไป ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพและปัจจัยด้านอื่นๆของชุมชนบางกอกน้อย)

มีผู้ร่วมวิจัย/อาสาสมัครนี้ทั้งสิ้นประมาณ 177,710 คน

1. เก็บข้อมูลทุกกลุ่มวัย 42 ชุมชน ในเขตบางกอกน้อย กลุ่มเป้าหมายหลักคือ กลุ่มผู้สูงอายุ ประชาชนเขตบางกอกน้อย จำนวน 158,533 คน (ที่มา :สำมะโนประชากรและเคหะ พ.ศ.2553)

2.บุคลากรคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล จำนวน 15,715 คน (ที่มา:ข้อมูลบุคลากรคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ประจาปี 2558)

3.นักศึกษาในสังกัดคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลจำนวน 3,462 คน (ที่มา:ข้อมูลนักเรียน นักศึกษา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ประจำปี พศ. 2558)

หากท่านตัดสินใจเข้าร่วมการวิจัยแล้ว จะมีขั้นตอนการวิจัยดังต่อไปนี้คือ

ขอให้ผู้เกี่ยวข้องหรือทีมผู้วิจัย นำเอกสารที่จะเข้าร่วมอยู่ในโครงการวิจัยนำไปให้ท่านอ่านและทราบถึงความเป็นมาพร้อมเซ็นชื่อยินยอมเข้าร่วม โดยขอให้ท่านตอบข้อมูลแบบสอบถาม ตามที่เอกสารแนบเพื่อที่ทีมผู้วิจัยจะได้นำข้อมูลในแบบสอบถามที่เกี่ยวกับท่าน นำไปเก็บรวบรวมเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ได้

ความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อเข้าร่วมการวิจัย

ท่านจะไม่ได้รับความเสี่ยงหรือความไม่สบายต่างๆในการตอบแบบสอบถามแต่อาจมีข้อคำถามที่มีผลต่อความรู้สึกอึดอัด ไม่สบายใจในการให้ข้อมูลเป็นต้น

หากมีข้อสงสัยที่จะสอบถามเกี่ยวข้องกับการวิจัย หรือหากเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์จากการวิจัย ท่านสามารถติดต่อ

รศ.นพ.นริศ กิจณรงค์ เบอร์ที่สามารถติดต่อได้ 02-419- 9065 และ 090-990- 5656

ประโยชน์ที่คิดว่าจะได้รับจากการวิจัย

ข้อมูลของท่านจะเป็นฐานข้อมูลของสถานพยาบาลที่สามารถนำข้อมูลไปใช้ในการวางแผนการรักษาโรคต่อไปในอนาคต ได้

(ไม่มีค่าตอบแทนที่ผู้ร่วมวิจัย/อาสาสมัครจะได้รับ)
(ไม่มีค่าใช้จ่ายที่ผู้ร่วมวิจัย/อาสาสมัครจะต้องรับผิดชอบเอง)

หากมีข้อมูลเพิ่มเติมทั้งด้านประโยชน์และโทษที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยนี้ ผู้วิจัยจะแจ้งให้ทราบโดยรวดเร็วและไม่ปิดบัง ข้อมูลส่วนตัวของผู้ร่วมวิจัย/อาสาสมัคร จะถูกเก็บรักษาไว้เป็นความลับและจะไม่เปิดเผยต่อสาธารณะเป็นรายบุคคล แต่จะรายงานผลการวิจัยเป็นข้อมูลส่วนรวม กรณีเป็นการวิจัยทางคลินิกผลการวิจัยในภาพรวมนี้อาจดูได้จากเว็บไซด์( https://www.ClinicalTrials.gov / http://www.ClinicalTrials.in.th.)
ข้อมูลของผู้ร่วมวิจัย/อาสาสมัครเป็นรายบุคคลอาจมีคณะบุคคลบางกลุ่มเข้ามาตรวจสอบได้ เช่น ผู้ให้ทุนวิจัย ผู้กำกับดูแลการวิจัย สถาบันหรือองค์กรของรัฐที่มีหน้าที่ตรวจสอบ รวมถึงคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในคน เป็นต้น โดยไม่ละเมิดสิทธิของผู้ร่วมวิจัย/อาสาสมัครในการรักษาความลับเกินขอบเขตที่กฎหมายอนุญาตไว้
ผู้ร่วมวิจัย/อาสาสมัครมีสิทธิ์ถอนตัวออกจากโครงการวิจัยเมื่อใดก็ได้ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า และการไม่เข้าร่วมการวิจัยหรือถอนตัวออกจากโครงการวิจัยนี้ จะไม่มีผลกระทบต่อการบริการและการรักษาที่สมควรจะได้รับตามมาตรฐานแต่ประการใด
หากผู้อยู่ในความดูแลของท่านได้รับการปฏิบัติที่ไม่ตรงตามที่ได้ระบุไว้ในเอกสารชี้แจงนี้ ท่านสามารถร้องเรียนไปยังประธานคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในคนได้ที่ สำนักงานคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในคน อาคารเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ ชั้น 2 โทร.0 2419 2667-72 โทรสาร 0 2411 0162